วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เทกระจาดบิ๊กโปรเจ็กต์ 4 แสนล./


http://goo.gl/rmCdC8

เทกระจาดบิ๊กโปรเจ็กต์ 4 แสนล./ยักษ์รับเหมาเตรียมชิงเค้กก้อนใหญ่

พิมพ์
altเปิด โพยประมูลงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในปี2554มูลค่ารวมกว่า 4 แสนล้านบาท  กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันรถไฟฟ้า 5 สาย ทั้งส่วนต่อขยายสายสีเขียวและเส้นทางใหม่สายสีส้ม-ชมพู-แดง-ม่วง  ฝ่ายรัฐสภายืนยันเดินหน้าสร้างอาคารหลังใหม่แยกเกียกกาย 1.2 หมื่นล้าน  เช่นเดียวกับสนามบินสุวรรณภูมิปรับแก้ทีโออาร์เพื่อประมูลสร้างเฟส2 อีก 6.2 หมื่นล้าน  ผู้รับเหมาตีปีกคึกคักบอกงานเยอะไม่ต้องตัดราคาให้เจ็บตัว  
             การเริ่มศักราชใหม่ของรัฐบาลที่เปิดแคมเปญ "ประชาวิวัฒน์" ประกาศจะแจกของขวัญ 9 ชิ้นเอาใจคนจนประชาชนชั้นรากหญ้าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต  อาจจะเป็นผลงานชิ้นโบแดงของพรรคประชาธิปัตย์ที่หวังคะแนนเสียงในการเลือก ตั้งใหญ่ที่ใกล้เข้ามา  แต่สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทยคงมุ่งมั่นจะผลักดันโครงการขนาด ใหญ่ภายใต้การกำกับดูแลให้มีการประมูลก่อสร้างเป็นรูปธรรมที่อาจจะส่งผลบวก ต่อการสะสมเสบียงคลังก่อนการเลือกตั้ง
+++บิ๊กล็อตรถไฟฟ้า
              นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า  ในปี2554จะมีโครงการขนาดใหญ่ออกประมูลให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นหลายแสนล้าน บาท   โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมซึ่งโครงการถนน สะพาน รถไฟฟ้าต่างๆ จะเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ได้เป็นอย่างดีทั้งผู้รับเหมา แรงงาน วัสดุก่อสร้าง การจับจ่ายใช้สอย  โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าที่ผลักดันให้ประมูลได้ในปีนี้คือ สายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต -สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กิโลเมตร มูลค่างาน 33,212 ล้านบาท และส่วนต่อขยายสายแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 12.8 กิโลเมตร มูลค่างาน 25,900 ล้านบาท      
               โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร มูลค่างาน 34,000 ล้านบาท  รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง ดินแดง-มีนบุรี ระยะทาง 37.5 กิโลเมตร มูลค่างาน 137,750 ล้านบาท และรถไฟสายสีแดง ระยะทาง  ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร มูลค่างาน 75,548 ล้านบาท  เป็นต้น
งานทางหลวง-กทม. 
              แหล่งข่าวจาก กรมทางหลวงชนบทกล่าวว่า   กรมทางหลวงชนบท เตรียมนำโครงการขนาดใหญ่  2 โครงการเปิดประมูลหาผู้รับเหมาให้ดำเนินงาน ได้แก่ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1  และถนนเชื่อมต่อระยะทาง 4.3 มูลค่างาน 3,796 ล้านบาท   ขณะนี้มีกลุ่มรับเหมาที่ซื้อแบบไปแล้วได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้า STซิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) กับ ไทเซอิ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ กิจการร่วมค้า ITD-SMCC  หรือ บริษัทอิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) กับ บริษัทสุมิโตโม มิตชุยคอนสตรัคชั่นฯ  โดยจะเปิดซองราคาประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ 
            ขณะที่โครงการประมูลถนนเชื่อมถนนราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก ระยะทาง 12 กิโลเมตร มูลค่างาน 33,212 ล้านบาท จะเปิดประมูลในวันที่ 18 มกราคม 2554 ขณะนี้มีผู้รับเหมาสนใจซื้อแบบจำนวน 7 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) บริษัทช.การช่าง จำกัด(มหาชน) บริษัทซิโน-ไทยฯ กำแพงเพชรวิวัฒน์ เนาวรัตน์พัฒนาการฯลฯ ซึ่งคาดว่าจะแข่งขันรุนแรง 
          ส่วนโครงการก่อสร้างถนนไร้ฝุ่นที่เหลือทั่วประเทศอีก 4,100 กิโลเมตร มูลค่างาน 19,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2554 จะซอยประมูลให้ผู้รับเหมาได้งานกันอย่างถ้วนหน้า จำนวน 615กิโลเมตร มูลค่า 2,800ล้านบาท 
              ด้านกรุงเทพมหานคร นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ  กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขายแบบก่อสร้างโครงการอุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ  บริเวณที่ดินสวนรถไฟ มูลค่างาน 2,500 ล้านบาท จากลาดพร้าว-แม่น้ำเจ้าพระยา  ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่แก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯที่มีผู้รับเหมาให้ความสนใจ จำนวนมาก  ส่วนอุโมงค์ระบายน้ำอื่นๆอีก4โครงการจะทยอยประมูลต่อไป  
+++สภาใหม่ประมูลแน่
               ความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่จัดประกวดออกแบบกันไป แล้วนั้น นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1  กล่าวว่า ประมาณเดือนเมษาฯ-พฤษภาคม 2554 นี้ สำนักงานสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดประมูลโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริเวณสี่แยกเกียกกาย มูลค่า 12,000 ล้านบาท  ขณะนี้อยู่ระหว่างยกร่างเงื่อนไขทีโออาร์เพื่อกำหนดคุณสมบัติผู้รับเหมา อย่างไรก็ดีเนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีมูลค่าสูง  จึงต้องการบริษัทผู้รับเหมาที่มีสภาพคล่องที่ดีมีความชำนาญด้านงานก่อสร้าง อาคารขนาดใหญ่ๆมาแล้วไม่ต่ำกว่า10-15ปี โดยเฉพาะงานของภาครัฐ  โดยโครงการก่อสร้าง  จะใช้เวลา 900 วันนับจากวันเซ็นสัญญากับผู้รับเหมา และมีกำหนดแล้วเสร็จเปิดใช้งานได้ในราวต้นปี2557    
                    "มั่นใจว่า โครงการนี้จะเกิดการจ้างงานในวงกว้าง เพราะที่ผ่านมา โครงการของภาครัฐเกินน้อย เพราะงบประมาณมีจำกัด แต่โครงการนี้ เป็นโครงการจำเป็นเร่งด่วน จึง ต้องรีบเข็นประมูลโครงการให้เร็วที่สุด "
                   นายนิคมกล่าวต่อถึงแผนแก้ปัญหาจราจรบริเวณสี่แยกเกียกกายว่า  กทม.เตรียมวางแผนก่อสร้างสะพานเกียกกาย  แม้ว่าทางสภาต้องการให้เป็นอุโมงค์ แต่ ขณะนี้ อยู่ระหว่างศึกษา เข้าใจว่า ยังไม่สามารถก่อสร้างได้ทันภายในปีนี้ รวมถึงถนนเชื่อมต่อโดยรอบอาคารรัฐสภา เพราะงบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท เท่าที่ทราบยังไม่ได้รับในปีงบประมาณ 2554 ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างได้ในปีงบประมาณ 2555 ซึ่งสภาจะเกิดหน้าก่อสร้างโครงการนี้ให้แล้วเสร็จก่อนส่วนโครงข่ายจราจร เชื่อว่า กทม.จะเร่งดำเนินการเปิดใช้ได้ทัน
  สุวรรณภูมิเฟส2
         อีกหนึ่งโครงการขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะคลอดในปลายปี 2554 นั้นนายสมชัย สวัสดิผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ)บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ทอท. อยู่ระหว่างการปรับแก้รายละเอียดของเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)สำหรับเตรียม เปิดประมูลจัดจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาบริหารจัดการโครงการ (Project Management Consultant (PMC)) เพื่อเป็นที่ปรึกษาในโครงการขยายสุวรรณภูมิระยะที่ 2 วงเงินลงทุน 62,503 ล้านบาทในการขยายการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี เพื่อบรรเทาความแออัดของจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่อง
                 ทอท.มีเป้าหมายให้ PMC เริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2554 เป็นต้นไปจนสิ้นสุดโครงการ เป็นเวลาประมาณ 6 ปี (ระหว่างปีงบประมาณ 2554-2559)   ทั้งนี้การขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 ทอท.ใช้เงินลงทุนของทอท.เอง 45,053.214 ล้านบาทหรือราว72.08% ในช่วงปีงบประมาณ2554-2559 ส่วนที่เหลืออีกราว17,450 ล้านบาทหรือราว27.92% เป็นการกู้เงินจากต่างประเทศ ในช่วงปีงบประมาณ 2558-2559
 รับเหมาตีปีกคึกคัก
            ด้านนายพลพัฒ กรรณสูต นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรรมการผู้จัดการบริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า  นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ปีนี้ภาครัฐจะนำโครงการขนาดใหญ่ ออกมาประมูลให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นมูลค่าหลายแสนล้านบาท ซึ่งมองว่าควรจะเร่งกำหนดวันประมูลให้ชัดเจน และเมื่อประมูลแล้วควรจะเซ็นสัญญาโดยเร็ว  ที่ผ่านมามีความล่าช้า    ไม่เช่นนั้นแล้วการจ้างงานในส่วนอื่นจะล่าช้าไปด้วย
            อย่างไรก็ดี มองว่า งานต่างๆ จะถึงมือผู้รับเหมามากขึ้นและชัดเจนมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ อาคารรัฐสภาใหม่  สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนสายใหม่ๆ  อุโมงค์ระบายน้ำ อาคารของหน่วยงานต่างๆ ฯลฯ   ซึ่งบริษัทรับเหมาค่ายใหญ่ๆต้องแข่งขันประมูลงานแน่นอน โครงการละไม่ต่ำกว่า 10 ราย และหากมีงานเกิดขึ้นมากการตัดราคาก็จะไม่เกิดขึ้นมาก แต่ถ้างานออกมาน้อยก็จะเกิดการฟันราคาเพื่อชิงงานกันมากขึ้น
            ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทเนาวรัตน์ฯ ได้ซื้อแบบประกวดราคา 2 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างถนนเชื่อมถนนราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก แนวตะวันออก-ตะวันตก มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทของกรมทางหลวงชนบท  จากที่มีผู้รับเหมาค่ายใหญ่จำนวน 7 ราย และซื้อแบบประมูลโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ  ของกรุงเทพมหานคร  แน่นอนว่าปีนี้น่าจะเป็นปีคึกคักของผู้รับเหมา
             นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย กล่าวว่า  ในปี 2554 ประเมินว่า การนำโครงการขนาดใหญ่ ออกประมูลของภาครัฐ จะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้ ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างสดใสขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2553 ที่ผ่านมา  อย่างไรก็ดี บริษัทรับเหมาจะเป็นค่ายใหญ่ 5-7บริษัทที่ได้งาน อาทิ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) บริษัทช.การช่างจำกัด(มหาชน ) บริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน)  เป็นต้น ที่เร่งสร้างผลงานและมีสภาพคล่องสูง
               ส่วนค่ายกลางและค่ายเล็กจะเข้าไม่ถึงนอกจากรับช่วงงานจากค่ายใหญ่ อย่างไรก็ดี ธุรกิจเกี่ยวเนื่องจะได้อานิสงส์ เช่นวัสดุก่อสร้าง  แต่จะมีผลกระทบต่อผู้รับเหมา เนื่องจากมีต้นทุนที่สูงขึ้น   โดยเฉพาะราคาปูนซีเมนต์ จากราคาลูกละ 100 บาทต้นๆ  ได้ปรับราคาขายขึ้นอีก ลูกละ 20 บาทจากตุลาคม 2553 ที่ผ่านมารวมถึงราคาเหล็กเส้นที่ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ประกอบกับ  ราคาค่าน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่เป็นตัวแปรสำคัญต่อต้นทุน เกี่ยวกับค่าขนส่ง
2 ค่ายชิงดำ
         ดร.อนุกุล   ตันติมาสน์  กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรมนุษย์และบริหารทั่วไปบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยปีนี้จะมีโครงการใหม่ ๆ  ของภาครัฐเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาพรวมของธุรกิจก่อสร้างและ ธุรกิจอื่นต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ช.การช่างสนใจเข้าร่วมประมูลงานของภาครัฐทุกโครงการ ที่มีการเปิดประมูล  อย่างโครงการ ทางด่วนของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย อีก 2 เส้นทาง  อาทิ ทางด่วนศรีรัช -วงแหวนรอบนอก โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอีก 3 สัญญาที่กำลังอยู่ระหว่างการยื่นซองประกวดราคา 2สัญญาและกำลังจะเปิดอีก สัญญา 3 ภายในปีนี้  โครงการก่อสร้างถนนของกรมทางหลวง สร้างคลองระบายน้ำของกรมชลประทาน โครงการโมโนเรลของกทม. โครงการส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้งหมอชิต -สะพานใหม่  เป็นต้น
        " บริษัท สนใจและจะเข้าร่วมอีกหลายโครงการ เพราะต่างเป็นโครงการสำคัญที่ผู้รับเหมาให้ความสนใจ"
           แหล่งข่าวจากบริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า สนใจทุกโครงการที่ภาครัฐเปิดประมูลโดยเฉพาะปี2554 มีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นมาก อาทิ รถไฟฟ้า สะพาน ถนน ฯลฯ โดยขณะนี้ ได้สนใจประมูลโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1 มูลค่ากว่า3,000 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมถนนราชพฤกษ์ -กาญจนาภิเษก มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทของกรมทางหลวงชนบท โครงการอุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อของกทม. และโครงการรถไฟฟ้าที่สนใจร่วมประมูล
               "เชื่อว่าหากรัฐผลักดันโครงการขนาดใหญ่ออกมาจะช่วยให้การกระจายงานไปสู่ผู้ รับเหมา แรงงานตลอดจนวัสดุก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศได้ แต่หากรัฐล่าช้า ก็จะทำให้เกิดผลกระทบต่อการจ้างงานตามไปด้วย" แหล่งข่าวกล่าวในที่สุด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,600  13-15  มกราคม พ.ศ. 2554
 
Read : 7940 times
 

เสนอขยายเวลา"บิ๊กตู่"เป็นนายกฯอีก2ปีเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ท่านเห็นอย่างไร
 

ข่าวยอดนิยมในรอบ 3 วัน

แปลภาษา

English French German Italian Portuguese Russian Spanish Thai

"ศาตราจารย์ ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน" ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านสถิติประยุกต์ของนิด้า ศาสตราจารย์ระดับ 11


NATIONZONE : Education


"วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม"

"วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม" ก้าวสู่สถาบันอุดมศึกษา"ไอซีที"เต็มรูปแบบ


 หากจัดอันดับความนิยมของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เชื่อแน่ว่ามีชื่อของ" วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม" (SIAM TECHNOLOGY COLLEGE) หรือ STC (วทส.)อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ นักบริหารหนุ่มไฟแรง"อ.พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช"อธิการบดี วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ที่ล่าสุดได้"กุนซือ"มือดีอย่าง "ศาตราจารย์ ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน" ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านสถิติประยุกต์ของนิด้า ศาสตราจารย์ระดับ 11 (ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในราชการ) ด้านวิศวกรรมคนแรกของประเทศไทยเจ้าของสมญานาม "บุรุษคอมพิวเตอร์แห่งเอเชีย"  บิดา“อินเตอร์เน็ตไทย” และ “บิดาอีเลิร์นนิ่งไทย”มายืนเคียงข้างในฐานะ"อธิการบดีกิตติคุณตลอดชีพ "ช่วยกันผลักดันวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามให้ก้าวล้ำนำหน้าแซงสถาบันอุดมศึกษา อื่นๆ อย่างน่าชื่นชม
ประกอบกับเทคโนโลยีสยามมีรูปแบบ การเรียนการสอนที่เรียกว่า "Differentiy i-Learn" เน้นให้นักศึกษาเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง ทำให้นักศึกษาได้ เรียนจริง รู้จริง เรียนจบแล้วมีงานทำกันทุกคน บางคนถูกจองตัวทั้งที่ยังไม่สำเร็จการศึกษา เรียกได้ว่า"คุณภาพ"มาก่อนปริมาณจริงๆ
กับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อระดับ บิดา“อินเตอร์เน็ต-อีเลิร์นนิ่งไทย” มาช่วยขับเคลื่อนสารพัดหลัดสูตรของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เพี่ยงเสี้ยวเวลาไม่ถึงปี "ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน"ติดเครื่องร้อนภายใต้การได้รับ"ไฟเขียว" จาก "อ.พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช"อธิการบดี และสภาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ที่เขานั่งควบเก้าอี้"นายกสภาฯ"อีกตำแหน่ง ซึ่งเขาพร้อมเปิดใจกับ"Noation Zone Education"ในทุกเรื่องราว
"ผมได้รับเกียรติอย่างสูงจากอธิการบดี พรพิสุทธิ์ ให้ผมเป็นอธิการบดีกิตติคุณได้ตลอดชีวิต เป็นตำแหน่งที่ไม่มีวันเกษียณ ทำให้ผมทำงานด้วยความสุข และราบรื่น เพราะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประชาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ผมมีความมุ่งมั่นจะผลักดันให้วิยาลัยเทคโนโลยีสยามเป็นสถาบันอุดมศึกษา อินเตอร์ในระดับต้นๆ ในประเทศและจะเป็นมหาวิทยาลัยไอทีชั้นนำของไทยในอนาคต"
การจะไต่ฝันเป็น"มหาวิทยาลัยอินเตอร์"และ"มหาวิทยาลัยไอที"นั้น เป็นการ “ฝันให้ไกลและไปให้ถึง”ต้องมีปัจจัยเอื้ออำนวยมากมาย ทั้งหลักสูตร กิจกรรม อาคาร สถานที่ กำลังคน งบประมาณ และต้องได้รับความ"ร่วมมือ ร่วมใจ" ของประชาคมชาวเทคโนโลยีสยามถึงจะไปถึงฝั่นฝันได้
ด้านหลักสูตรนั้นแนวนโยบายของเทคโนโลยีสยามในปัจจุบันกับการพัฒนาการศึกษา หลักสูตรต่างๆ รวมถึงการเปิดหลักสูตรใหม่ๆ ยังมุ่งตอบสนองความต้องการของสังคมหรือตลาดแรงงาน ทั้งระดับปริญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ทั้งหมดและมุ่งพัฒนาสู่ E-Learning ที่ทุกประเทศในโลกกำลังเร่งรัดพัฒนากันอยู่
"เป็นที่น่ายินดี สภาวิทยาลัยเทคโนโลยี่สยามได้อนุมัติ 2 หลักสูตรปริญญาเอกเมื่อเร็วๆ นี้ คือ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาวิธีวิทยาการเรียนทางอิเล็กทรอนิกส์ (หลักสูตรนานาชาติ) หรือ Doctor of Philosophy Program in eLearning Methodology (International Program)และหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาสหวิทยาการกับเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (หลักสูตรนานาชาติ)หรือDoctor of Philosophy Program in Interdisciplinarity with Information and Communications Technology (International Program) คาดว่าปลายปี 2556 หรือต้นปี 2557 นี้จะเปิดสอนได้"
เหนืออื่นใด หลักสูตรปริญญาเอกหลักสูตรที่ 3 จะเป็น ดุษฎีบัณฑิตสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Ph.D. in Information and Communication Technology) ซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่างหลักสูตร ซึ่งหลักสูตรปริญญาเอกนั้น การตีพิมพ์ต้องเป็นภาษาอังกฤษ การติดต่อสื่อสารระหว่างอาจารย์กับนักศึกษาก็แล้วแต่นักศึกษา คือ ถ้านักศึกษาเป็นคนไทย ก็ใช้ภาษาไทย ถ้านักศึกษาเป็นต่างชาติก็ใช้ภาษาอังกฤษ
เมื่อมีหลักสูตรปริญญาเอก เทคโนโลยีสยาม สามารถให้อาจารย์ชุดเดียวกันมาสอนในหลักสูตรปริญญาโท ซึ่งจะเปิดหลักสูตรปริญญาโทตามหลักสูตรปริญญาเอกทั้ง 3 หลักสูตรต่อไป
"ในอนาคตเทคโนโลยีสยามจะพยายามนำหลักสูตรปริญญาตรีทั้งหมด มาเปิดสอนแบบอีเลิร์นนิ่ง มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ รวมถึงภาษาจีน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี2558 ขณะนี้กลุ่มประเทศในอาเซียนกำลังพัฒนาหลักสูตรเป็นแบบอีเลิร์นิ่ง ถ้าเราหยุดนิ่งเราก็สู้เขาไม่ได้ สถาบันอุดมศึกษาต้องปรับตัว ให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา แบบไร้ข้อจำกัด คนทำงานก็เรียนได้ คนคลอดลูกใหม่ๆก็เรียนได้ โดยมือหนึ่งอุ้มลูกและอีกมือหนึ่งก็กดคอมพิวเตอร์เรียนผ่านคอมพิวเตอร์ไป ด้วย"
วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม คิดกาลไกล ที่จะเปิดหลักสูตรด้านการบิน โดยนำร่องด้วยหลักสูตรซ่อมเครื่องบิน ทั้งนี้มีความพร้อมด้านสถานที่กว่า 2,000 ไร่ ที่จังหวัดราชบุรี แถมยังได้รับใบอนุญาตประกอบการสนามบินพาณิชย์โดยสามารถรองรับเครื่องบินเจต ขนาดใหญ่ได้ฉะนั้นจะเริ่มด้วยหลักสูตรการซ่อมเครื่องบิน ตามด้วยหลักสูตรการสร้างเครื่องบินและอาจจะมีหลักสูตรการบริหารการบินด้วย
"การซ่อมเครื่องบินจะมีเป็นความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ นักศึกษาของเราจะได้เรียนรู้จริง ปฏิบัติจริงกับมืออาชีพ และแนวโน้มเมื่อนักศึกษาซ่อมเครื่องบินได้ ผมเชื่อว่าหลักสูตรนี้รองรับการเติบโตของอาเซียน โดยเงินเดือนผู้จบการซ่อมเครื่องบินจะสูงถึง 2-3 แสนบาทต่อเดือนซึ่งสูงกว่าเงินเดือนผู้ซ่อมรถยนต์"
กิจกรรมที่สำคัญอีกกิจกรรมหนึ่งของสถาบันอุดมศึกษาก็คือการจัดสัมมนานานา ชาติ ซึ่งสยามเทคโนโลยีได้จัดการสัมมนานานาชาติ เรื่อง “อีเลิร์นนิ่งสำหรับสังคมอุดมศึกษาครั้งที่ 9 ประจำปี พ.ศ. 2555” ขึ้นที่หอประชุมใหญ่ของวิทยลัยโดย ฯพณฯ นาวาเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารได้กรุณาได้เป็นประธานเปิดงาน ให้
 การสัมมนานานาชาติที่เทคโนโลยีสยามได้จัดและกำลังจะจัดต่อไปนั้น ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ที่ ศ. ดร. ศรีศักดิ์ เป็นนายกหรือเป็นประธานและมีสถานที่ตั้งอยู่ที่เทคโนโลยีสยามรวมกว่า 8 หน่วยงาน อาทิ สมาคมดอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมาคมอินเทอร์เน็ตนานาชาติสาขาประเทศไทย สมาคมคอมพิวเตอร์ เอซีเอ็ม สาขาประเทศไทย สมาคอมคอมพิวเตอร์ไอทริปเปิลอีสาขาประเทศไทย และ มูลนิธิสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น เทคโนโลยีสยามจะจัดสัมมนานานาชาติอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง คือ ชุดอีเลิร์นนิ่ง ชุดสหวิทยาการ และชุดไอซีที โดยชุดที่จะจัดในเดือนพฤษภาคม 2556 จะเป็นชุดสหวิทยาการ จัดที่อิมแพคเมืองทองธานี โดย ฯพณฯ องคมนตรี พล.อ.อ. กำธน สินธวานนท์ กรุณารับเป็นประธานเปิด มีบทความ 92 บทความจาก 16 ประเทศ กรุณาดูรายละเอียดที่ www.Inrit2013.com
 กิจจกรรมสำคัญที่ 2 ของสถาบันอุดมศึกษาระดับแนวหน้า คือ กิจกรรมสำนักพิมพ์ซึ่งสยามเทคได้ตั้งสำนักพิมพ์สยามเทค(SiamTechnology Press) โดยมี ศ.ดร.ศรีศักดิ์ เป็นประธานบรรณาธิการอาวุโสและ อ.พรพิสุทธ์เป็นประธานบรรณาธิการ ได้จัดพิมพ์วารสารวิชาการภาษาอังกฤษ ชื่อ “International Journal of the Computer, the Internet and Management (IJCIM)” มีฉบับปกติปีละ 3 ฉบับ และฉบับพิเศษตามความเหมาะสม วารสารนี้ได้รับให้อยู่ใน “รายการวารสารวิชาการไทย (Thai Citation Index)” และมี Impact Factor 5.49 จาก Index Copernicus มีอาจารย์จากต่างประเทศนำผลการตีพิมพ์ใน IJCIM ไปขอตำแหน่งวิชาการ(ผศ. รศ. และ ศ.) และนักศึกษาไปขอจบปริญญาเอกได้ กิจจกรรมสำคัญที่ 3 ของสถาบันอุดมศึกษา คือการสำรวจความคิดเห็น หรือโพลล์
ซึ่ง "ศ.ดร.ศรีศักดิ์" ในฐานะผู้ก่อตั้งสำนักวิจัย"เอแบคโพลล์"เลื่องชื่อ ยังบอกว่า สภาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามได้อนุมัติจัดตั้ง"สำนักวิจัยสยามเทคอินเตอร์เนต โพลล์"เรียบร้อยแล้ว รูปแบบจะแตกต่างจาก"เอแบคโพลล์" เพราะเราจะใช้การสำรวจผ่านโลกโชเชียลเน๊ตเวิร์ค มีเครือข่ายที่เป็นสมาชิกเป้าหมายตัวเลขหลักล้านคนขึ้นไป เน้นความถูกต้อง แม่นยำตามหลักวิชาการและจะเริ่มแถลงผลปในปี พ.ศ. 2556 นี้ โดยเริ่มด้วยเดือนละครั้งและในที่สุดอาจจะแถลงทุกวัน
" การแก้ปัญหาประเทศไม่สามารถแก้ได้ด้วย วิชาการใดวิชาการหนึ่งเท่านั้น ต้องใช้หลายวิชา เรียกว่า “สหวิทยาการ” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญและจำเป็นต้องเปิดการเรียนการสอนทั้งระดับ ปริญญาเอก โท ตรี และหลักสูตรระยะสั้น อาทิ "การชะลอความแก่" ซึ่งมีเจ้าของรพ.พระราม 2 ช่วยแนะนำเราอยู่ ท่านเจ้าของรพ. ทำเรื่องนี้แล้วได้ผลดีมาก ทำให้ผู้สูงอายุ ดูหนุ่มสาว ด้วยการวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ฮอร์โมน ส่วน ศ.ดร. ศรีศักดิ์ เองอายุ 76 ปีแล้วแต่ยังแข็งแรงดีอยู่ยังทำงานวันละ 14-15 ชม. สัปดาห์ละ 7 วัน โดยท่านกล่าวว่าใช้หลัก “3 อ” อ.ที่1 คืออาหาร โดยท่านไม่กินแป้งและไขมันตรงๆ แต่กินแป้งจากผลไม้ อาทิ กล้วยน้ำว้า และมะม่วงมัน อ.ที่ 2 คืออารมณ์ ต้องไม่เครียดกับอะไรทั้งสิ้น ยิ้มได้เมื่อภัยมาปและมีปัญหาอะไรก็คิดว่าทุกปัญหาแก้ได้ทั้งนั้น อ.ที่ 3 คือการออกกำลังการซึ่งควรจะใช้แอโรบิกแบบไม่กระแทกกระทั้น (Low-Impact Aerobic) ครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง อธิการบดีกิตติคุณ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม กล่าวทิ้งท้าย

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ: วันที่ 16 ต.ค. กลุ่มปฏิรูปพลังงานยื่นหนังสื่อร้องเ...

พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ: วันที่ 16 ต.ค. กลุ่มปฏิรูปพลังงานยื่นหนังสื่อร้องเ...: กลุ่มปฏิรูปพลังงานร้องเรียน คสช.ระงับสัมปทานปิโตรเลียม โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ต.ค. 2557 14:01 776 คร...

พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ: วันที่ 16 ต.ค. กลุ่มปฏิรูปพลังงานยื่นหนังสื่อร้องเ...

พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ: วันที่ 16 ต.ค. กลุ่มปฏิรูปพลังงานยื่นหนังสื่อร้องเ...: กลุ่มปฏิรูปพลังงานร้องเรียน คสช.ระงับสัมปทานปิโตรเลียม โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ต.ค. 2557 14:01 776 คร...

พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ: วันที่ 16 ต.ค. กลุ่มปฏิรูปพลังงานยื่นหนังสื่อร้องเ...

พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ: วันที่ 16 ต.ค. กลุ่มปฏิรูปพลังงานยื่นหนังสื่อร้องเ...: กลุ่มปฏิรูปพลังงานร้องเรียน คสช.ระงับสัมปทานปิโตรเลียม โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ต.ค. 2557 14:01 776 คร...

วันที่ 16 ต.ค. กลุ่มปฏิรูปพลังงานยื่นหนังสื่อร้องเรียน คสช. ระงับสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21

กลุ่มปฏิรูปพลังงานร้องเรียน คสช.ระงับสัมปทานปิโตรเลียม


โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ต.ค. 2557 14:01



กลุ่มปฏิรูปพลังงานยื่นหนังสื่อร้องเรียน คสช. ระงับสัมปทานปิโตรเลียม หยุดขึ้นราคาก๊าซ-น้ำมัน พร้อมตรวจสอบจนท.รัฐ
วันที่ 16 ต.ค. กลุ่มปฏิรูปพลังงานยื่นหนังสื่อร้องเรียน คสช. ระงับสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21 อีกรอบ เมื่อเวลา 09.10 น. ที่ศูนย์บริการประชาชนชั่วคราว อาคารสำนักงาน ก.พ. สภาปฏิรูปพลังงานไทย กลุ่มทวงคืนพลังงานไทย นำโดย ม.ล.รุ่งคุณ กิตติยากร และ พล.อ.ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ พร้อมคณะ ประมาณ 20 คน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อติดตามเรื่องขอให้หยุดการให้สัมปทานครั้งที่ 21 และหยุดขึ้นราคาก๊าซ-น้ำมัน พร้อมทั้งตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ
ม.ล.รุ่งคุณ เปิดเผยว่า ทางเครือข่ายฯ ขอให้นายกรัฐมนตรียับยั้งการให้สัมปทาน ยับยั้งการขึ้นราคาก๊าซและน้ำมันเพื่อรอผลการหารือของคณะปฏิรูปที่รัฐบาล แต่งตั้งขึ้น ได้ข้อสรุปออกมาก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสในการให้ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนของภาครัฐ ที่ยังมีข้อขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน และการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งสมาชิก คสช.ว่ามีการกระทำเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่
ม.ล.รุ่งคุณ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบการทำหน้าที่ของ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องก๊าซและน้ำมันว่าจะหมดในเร็วๆ นี้ จึงต้องเร่งปิดสัมปทาน รวมทั้ง นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เกี่ยวกับการแสดงความเห็นเรื่องต้นทุนก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวี และสาเหตุที่จะขึ้นราคาของก๊าซ และขอให้ตรวจสอบด้วยว่ามีบุคคลใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผบ.ตร. และ คสช. มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท เวิร์ล ก๊าซ ซึ่งเป็นธุรกิจจำหน่ายก๊าซหุงต้มหรือไม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเกิดความเสมอภาคกับประชาชนชาวไทย ที่ต้องได้รับการคุ้มครองเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ นายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน เป็นผู้รับเรื่อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ: ประวัติ ท่าน พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ

พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ: ประวัติ ท่าน พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ: พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ประวัติการศึกษา       .  ปริญญาเอก ด้านรัฐกิจฯ ปริญญาตรี โรงเรียนนายร้อย ...