วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558

"ศาตราจารย์ ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน" ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านสถิติประยุกต์ของนิด้า ศาสตราจารย์ระดับ 11


NATIONZONE : Education


"วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม"

"วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม" ก้าวสู่สถาบันอุดมศึกษา"ไอซีที"เต็มรูปแบบ


 หากจัดอันดับความนิยมของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เชื่อแน่ว่ามีชื่อของ" วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม" (SIAM TECHNOLOGY COLLEGE) หรือ STC (วทส.)อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ นักบริหารหนุ่มไฟแรง"อ.พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช"อธิการบดี วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ที่ล่าสุดได้"กุนซือ"มือดีอย่าง "ศาตราจารย์ ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน" ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านสถิติประยุกต์ของนิด้า ศาสตราจารย์ระดับ 11 (ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในราชการ) ด้านวิศวกรรมคนแรกของประเทศไทยเจ้าของสมญานาม "บุรุษคอมพิวเตอร์แห่งเอเชีย"  บิดา“อินเตอร์เน็ตไทย” และ “บิดาอีเลิร์นนิ่งไทย”มายืนเคียงข้างในฐานะ"อธิการบดีกิตติคุณตลอดชีพ "ช่วยกันผลักดันวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามให้ก้าวล้ำนำหน้าแซงสถาบันอุดมศึกษา อื่นๆ อย่างน่าชื่นชม
ประกอบกับเทคโนโลยีสยามมีรูปแบบ การเรียนการสอนที่เรียกว่า "Differentiy i-Learn" เน้นให้นักศึกษาเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง ทำให้นักศึกษาได้ เรียนจริง รู้จริง เรียนจบแล้วมีงานทำกันทุกคน บางคนถูกจองตัวทั้งที่ยังไม่สำเร็จการศึกษา เรียกได้ว่า"คุณภาพ"มาก่อนปริมาณจริงๆ
กับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อระดับ บิดา“อินเตอร์เน็ต-อีเลิร์นนิ่งไทย” มาช่วยขับเคลื่อนสารพัดหลัดสูตรของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เพี่ยงเสี้ยวเวลาไม่ถึงปี "ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน"ติดเครื่องร้อนภายใต้การได้รับ"ไฟเขียว" จาก "อ.พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช"อธิการบดี และสภาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ที่เขานั่งควบเก้าอี้"นายกสภาฯ"อีกตำแหน่ง ซึ่งเขาพร้อมเปิดใจกับ"Noation Zone Education"ในทุกเรื่องราว
"ผมได้รับเกียรติอย่างสูงจากอธิการบดี พรพิสุทธิ์ ให้ผมเป็นอธิการบดีกิตติคุณได้ตลอดชีวิต เป็นตำแหน่งที่ไม่มีวันเกษียณ ทำให้ผมทำงานด้วยความสุข และราบรื่น เพราะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประชาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ผมมีความมุ่งมั่นจะผลักดันให้วิยาลัยเทคโนโลยีสยามเป็นสถาบันอุดมศึกษา อินเตอร์ในระดับต้นๆ ในประเทศและจะเป็นมหาวิทยาลัยไอทีชั้นนำของไทยในอนาคต"
การจะไต่ฝันเป็น"มหาวิทยาลัยอินเตอร์"และ"มหาวิทยาลัยไอที"นั้น เป็นการ “ฝันให้ไกลและไปให้ถึง”ต้องมีปัจจัยเอื้ออำนวยมากมาย ทั้งหลักสูตร กิจกรรม อาคาร สถานที่ กำลังคน งบประมาณ และต้องได้รับความ"ร่วมมือ ร่วมใจ" ของประชาคมชาวเทคโนโลยีสยามถึงจะไปถึงฝั่นฝันได้
ด้านหลักสูตรนั้นแนวนโยบายของเทคโนโลยีสยามในปัจจุบันกับการพัฒนาการศึกษา หลักสูตรต่างๆ รวมถึงการเปิดหลักสูตรใหม่ๆ ยังมุ่งตอบสนองความต้องการของสังคมหรือตลาดแรงงาน ทั้งระดับปริญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ทั้งหมดและมุ่งพัฒนาสู่ E-Learning ที่ทุกประเทศในโลกกำลังเร่งรัดพัฒนากันอยู่
"เป็นที่น่ายินดี สภาวิทยาลัยเทคโนโลยี่สยามได้อนุมัติ 2 หลักสูตรปริญญาเอกเมื่อเร็วๆ นี้ คือ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาวิธีวิทยาการเรียนทางอิเล็กทรอนิกส์ (หลักสูตรนานาชาติ) หรือ Doctor of Philosophy Program in eLearning Methodology (International Program)และหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาสหวิทยาการกับเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (หลักสูตรนานาชาติ)หรือDoctor of Philosophy Program in Interdisciplinarity with Information and Communications Technology (International Program) คาดว่าปลายปี 2556 หรือต้นปี 2557 นี้จะเปิดสอนได้"
เหนืออื่นใด หลักสูตรปริญญาเอกหลักสูตรที่ 3 จะเป็น ดุษฎีบัณฑิตสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Ph.D. in Information and Communication Technology) ซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่างหลักสูตร ซึ่งหลักสูตรปริญญาเอกนั้น การตีพิมพ์ต้องเป็นภาษาอังกฤษ การติดต่อสื่อสารระหว่างอาจารย์กับนักศึกษาก็แล้วแต่นักศึกษา คือ ถ้านักศึกษาเป็นคนไทย ก็ใช้ภาษาไทย ถ้านักศึกษาเป็นต่างชาติก็ใช้ภาษาอังกฤษ
เมื่อมีหลักสูตรปริญญาเอก เทคโนโลยีสยาม สามารถให้อาจารย์ชุดเดียวกันมาสอนในหลักสูตรปริญญาโท ซึ่งจะเปิดหลักสูตรปริญญาโทตามหลักสูตรปริญญาเอกทั้ง 3 หลักสูตรต่อไป
"ในอนาคตเทคโนโลยีสยามจะพยายามนำหลักสูตรปริญญาตรีทั้งหมด มาเปิดสอนแบบอีเลิร์นนิ่ง มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ รวมถึงภาษาจีน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี2558 ขณะนี้กลุ่มประเทศในอาเซียนกำลังพัฒนาหลักสูตรเป็นแบบอีเลิร์นิ่ง ถ้าเราหยุดนิ่งเราก็สู้เขาไม่ได้ สถาบันอุดมศึกษาต้องปรับตัว ให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา แบบไร้ข้อจำกัด คนทำงานก็เรียนได้ คนคลอดลูกใหม่ๆก็เรียนได้ โดยมือหนึ่งอุ้มลูกและอีกมือหนึ่งก็กดคอมพิวเตอร์เรียนผ่านคอมพิวเตอร์ไป ด้วย"
วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม คิดกาลไกล ที่จะเปิดหลักสูตรด้านการบิน โดยนำร่องด้วยหลักสูตรซ่อมเครื่องบิน ทั้งนี้มีความพร้อมด้านสถานที่กว่า 2,000 ไร่ ที่จังหวัดราชบุรี แถมยังได้รับใบอนุญาตประกอบการสนามบินพาณิชย์โดยสามารถรองรับเครื่องบินเจต ขนาดใหญ่ได้ฉะนั้นจะเริ่มด้วยหลักสูตรการซ่อมเครื่องบิน ตามด้วยหลักสูตรการสร้างเครื่องบินและอาจจะมีหลักสูตรการบริหารการบินด้วย
"การซ่อมเครื่องบินจะมีเป็นความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ นักศึกษาของเราจะได้เรียนรู้จริง ปฏิบัติจริงกับมืออาชีพ และแนวโน้มเมื่อนักศึกษาซ่อมเครื่องบินได้ ผมเชื่อว่าหลักสูตรนี้รองรับการเติบโตของอาเซียน โดยเงินเดือนผู้จบการซ่อมเครื่องบินจะสูงถึง 2-3 แสนบาทต่อเดือนซึ่งสูงกว่าเงินเดือนผู้ซ่อมรถยนต์"
กิจกรรมที่สำคัญอีกกิจกรรมหนึ่งของสถาบันอุดมศึกษาก็คือการจัดสัมมนานานา ชาติ ซึ่งสยามเทคโนโลยีได้จัดการสัมมนานานาชาติ เรื่อง “อีเลิร์นนิ่งสำหรับสังคมอุดมศึกษาครั้งที่ 9 ประจำปี พ.ศ. 2555” ขึ้นที่หอประชุมใหญ่ของวิทยลัยโดย ฯพณฯ นาวาเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารได้กรุณาได้เป็นประธานเปิดงาน ให้
 การสัมมนานานาชาติที่เทคโนโลยีสยามได้จัดและกำลังจะจัดต่อไปนั้น ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ที่ ศ. ดร. ศรีศักดิ์ เป็นนายกหรือเป็นประธานและมีสถานที่ตั้งอยู่ที่เทคโนโลยีสยามรวมกว่า 8 หน่วยงาน อาทิ สมาคมดอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมาคมอินเทอร์เน็ตนานาชาติสาขาประเทศไทย สมาคมคอมพิวเตอร์ เอซีเอ็ม สาขาประเทศไทย สมาคอมคอมพิวเตอร์ไอทริปเปิลอีสาขาประเทศไทย และ มูลนิธิสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น เทคโนโลยีสยามจะจัดสัมมนานานาชาติอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง คือ ชุดอีเลิร์นนิ่ง ชุดสหวิทยาการ และชุดไอซีที โดยชุดที่จะจัดในเดือนพฤษภาคม 2556 จะเป็นชุดสหวิทยาการ จัดที่อิมแพคเมืองทองธานี โดย ฯพณฯ องคมนตรี พล.อ.อ. กำธน สินธวานนท์ กรุณารับเป็นประธานเปิด มีบทความ 92 บทความจาก 16 ประเทศ กรุณาดูรายละเอียดที่ www.Inrit2013.com
 กิจจกรรมสำคัญที่ 2 ของสถาบันอุดมศึกษาระดับแนวหน้า คือ กิจกรรมสำนักพิมพ์ซึ่งสยามเทคได้ตั้งสำนักพิมพ์สยามเทค(SiamTechnology Press) โดยมี ศ.ดร.ศรีศักดิ์ เป็นประธานบรรณาธิการอาวุโสและ อ.พรพิสุทธ์เป็นประธานบรรณาธิการ ได้จัดพิมพ์วารสารวิชาการภาษาอังกฤษ ชื่อ “International Journal of the Computer, the Internet and Management (IJCIM)” มีฉบับปกติปีละ 3 ฉบับ และฉบับพิเศษตามความเหมาะสม วารสารนี้ได้รับให้อยู่ใน “รายการวารสารวิชาการไทย (Thai Citation Index)” และมี Impact Factor 5.49 จาก Index Copernicus มีอาจารย์จากต่างประเทศนำผลการตีพิมพ์ใน IJCIM ไปขอตำแหน่งวิชาการ(ผศ. รศ. และ ศ.) และนักศึกษาไปขอจบปริญญาเอกได้ กิจจกรรมสำคัญที่ 3 ของสถาบันอุดมศึกษา คือการสำรวจความคิดเห็น หรือโพลล์
ซึ่ง "ศ.ดร.ศรีศักดิ์" ในฐานะผู้ก่อตั้งสำนักวิจัย"เอแบคโพลล์"เลื่องชื่อ ยังบอกว่า สภาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามได้อนุมัติจัดตั้ง"สำนักวิจัยสยามเทคอินเตอร์เนต โพลล์"เรียบร้อยแล้ว รูปแบบจะแตกต่างจาก"เอแบคโพลล์" เพราะเราจะใช้การสำรวจผ่านโลกโชเชียลเน๊ตเวิร์ค มีเครือข่ายที่เป็นสมาชิกเป้าหมายตัวเลขหลักล้านคนขึ้นไป เน้นความถูกต้อง แม่นยำตามหลักวิชาการและจะเริ่มแถลงผลปในปี พ.ศ. 2556 นี้ โดยเริ่มด้วยเดือนละครั้งและในที่สุดอาจจะแถลงทุกวัน
" การแก้ปัญหาประเทศไม่สามารถแก้ได้ด้วย วิชาการใดวิชาการหนึ่งเท่านั้น ต้องใช้หลายวิชา เรียกว่า “สหวิทยาการ” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญและจำเป็นต้องเปิดการเรียนการสอนทั้งระดับ ปริญญาเอก โท ตรี และหลักสูตรระยะสั้น อาทิ "การชะลอความแก่" ซึ่งมีเจ้าของรพ.พระราม 2 ช่วยแนะนำเราอยู่ ท่านเจ้าของรพ. ทำเรื่องนี้แล้วได้ผลดีมาก ทำให้ผู้สูงอายุ ดูหนุ่มสาว ด้วยการวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ฮอร์โมน ส่วน ศ.ดร. ศรีศักดิ์ เองอายุ 76 ปีแล้วแต่ยังแข็งแรงดีอยู่ยังทำงานวันละ 14-15 ชม. สัปดาห์ละ 7 วัน โดยท่านกล่าวว่าใช้หลัก “3 อ” อ.ที่1 คืออาหาร โดยท่านไม่กินแป้งและไขมันตรงๆ แต่กินแป้งจากผลไม้ อาทิ กล้วยน้ำว้า และมะม่วงมัน อ.ที่ 2 คืออารมณ์ ต้องไม่เครียดกับอะไรทั้งสิ้น ยิ้มได้เมื่อภัยมาปและมีปัญหาอะไรก็คิดว่าทุกปัญหาแก้ได้ทั้งนั้น อ.ที่ 3 คือการออกกำลังการซึ่งควรจะใช้แอโรบิกแบบไม่กระแทกกระทั้น (Low-Impact Aerobic) ครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง อธิการบดีกิตติคุณ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม กล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น